เทคโนโลยี 5G กับการสานฝันสู่ระบบอินเทอร์เน็ตของประสาทสัมผัส
- man10310man
- Aug 31, 2020
- 1 min read
ในขณะประสบการณ์การใช้แรงงานอินเทอร์เน็ตของเราในทุกวันนี้ยังคงจำกัดอยู่ในโหมดการรับทราบภาพรวมทั้งเสียงเป็นส่วนมาก สถาบันวิจัยระดับนานาชาติของอีริคสัน หัวหน้าเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารในระบบ 5G มองเห็นว่าโลกของพวกเราจะก้าวเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตของประสาทสัมผัส (Internet of Senses) ในปี 2025 รวมทั้งระบบการติดต่อสื่อสารโดยตรงจากความนึกคิด (Thought Communication) ในปี 2030

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.sanook.com/
อีริคสันได้กระทำการสอบถามความคิดเห็นผู้ชำนาญและก็ผู้ใช้งานเทคโนโลยี AR และก็ VR เป็นประจำกว่า 7,600 คนทั้งโลกในเมืองใหญ่ๆเป็นต้นว่า นิวยอร์ค ลอนดอน เมืองโตเกียว เซี่ยงไฮ้ ซานฟรานซิสโก สต็อคโฮล์ม ซิดนีย์ และก็จังหวัดกรุงเทพมหานคร ในเรื่องความเจริญของระบบอินเทอร์เน็ตว่าพวกเราคงจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่บนโลกอินเตอร์เน็ตอย่างไรบ้างในอีก 10 ปีด้านหน้า สูตรเล่นบาคาร่าให้ใช้ฟรี เป็นวิทยาทาน
ซึ่งความเห็นส่วนมากของกรุ๊ปตรวจเป็น พวกเราจะเข้าสู่สมัยของ Internet of Senses กล่าวอีกนัยหนึ่ง รูปกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมกลิ่น เสียง แล้วก็สัมผัสจะถูกถ่ายทอดผ่านระบบดิจิทัลเพื่อผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้รับประสบการณ์เปรียบเสมือนจริงอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งโน่นจะเปลี่ยนโลกการรับทราบของพวกเราไปอย่างไร้ข้อจำกัด สถาบันวิจัยอีริคสันมองเห็นว่ามี 10 แนวโน้มหลักของผู้ใช้ที่จะเกิดขึ้นและก็ส่งผลต่อคนซื้อในอนาคต สูตรเล่นบาคาร่าให้ใช้ฟรี เป็นวิทยาทาน
เทรนด์ที่ 1: การใช้ความนึกคิดของพวกเราเป็นอินเตอร์เฟส
มั่นใจว่าในอีก 10 ปีด้านหน้าพวกเราจะติดต่อสื่อสารความนึกคิดของพวกเราโดยตรงไปยังระบบปฏิบัติการต่างๆได้ ด้วยเหตุนี้พวกเราจะสามารถสั่งงานวัสดุอุปกรณ์ดิจิทัลต่างได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ เมาส์ คีย์บอร์ด หรือเครื่องไม้เครื่องมือการควบคุมอะไรก็ตามเพียงแต่พวกเรารู้สึกว่าอยากอะไร ระบบก็จะสามารถรับคำสั่งและก็ดำเนินงานดังที่พวกเราอยากได้ได้อย่างสะดวกสะบาย
เทรนด์ที่ 2: การควบคุมเสียง
ในปี 2030 พวกเราจะสามารถควบคุมเสียงต่างๆรอบข้างของพวกเราได้ ถ้าพวกเราอยู่ในที่ๆมีเสียงก่อกวนสมาธิพวกเรา พวกเราก็จะสามารถสั่งให้หูฟังของพวกเราสร้าง Digital Sound Bubble ขึ้นมาเพื่อกันเสียงที่พวกเราไม่อยาก รวมทั้งพวกเราก็จะสามารถเลือกฟังเสียงที่พวกเราต้องการฟังรวมทั้งระบุเสียงของตนเองขึ้นใหม่เพื่อบุคคลอื่นได้ยินในแบบที่พวกเราอยาก หูฟังพวกนั้นยังสามารถแปลภาษาต่างๆทั่วทั้งโลกได้ ทำให้ภาษาต่างชาติไม่เป็นปัญหาต่อการติดต่อสื่อสารอีกต่อไป
เทรนด์ที่ 3: การรับทราบรสของกิน
ทดลองจินตนาการมองสิว่าจะดีสักขนาดไหนที่พวกเราจะรับทราบรสของกินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้เพียงแค่นำเอาวัสดุอุปกรณ์เครื่องรับรสของกินมาเอาไว้ภายในปากของพวกเรา พวกเราสามารถสั่งกาแฟผ่านระบบออนไลน์แล้วลองเพื่อเทสต์ว่ารสหวานมากมายไปน้อยไปได้ก่อนที่จะของจะมาส่งที่บ้าน ห้องอาหารต่างๆยังสามารถส่งรสของเมนูอาหารในร้านค้าไปให้ลูกค้าเลือกลองรวมทั้งสั่งได้ตามที่ใจต้องการ
เทรนด์ที่ 4: การรับทราบกลิ่น
ผู้ผลิตภาพยนตร์ในฮอลลีวู้ดเคยคิดกันมาอย่างนานว่าจะทำเช่นไรให้ผู้ชมสามารถรับทราบอรรถรสในเรื่องกลิ่น ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นได้อย่างเอาจริงเอาจังเสียที่ แม้กระนั้นเทคโนโลยี Internet of Senses ในอีก 10 ปีด้านหน้าจะมีผลให้พวกเราสามารถรับทราบกลิ่นผ่านระบบดิจิทัลได้ แน่ๆว่าเหมือนกับเทรนด์ที่ 3 ที่ว่าด้วยเรื่องรส กลิ่นก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของของกินว่าจะอร่อยไหม
เทรนด์ที่ 5: การรับสัมผัส
เช้าใจกันว่าวัสดุอุปกรณ์เสริมการรับทราบอย่าง wrist band หรือ arm band จะมีส่วนทำให้พวกเราสามารถรับทราบสัมผัสของวัตถุต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น รูปร่าง น้ำหนัก และก็ยังรวมทั้งผิวสัมผัสของสิ่งพวกนั้น นอกจากนั้นเครื่องมือสำหรับในการฟังอย่าง earphone ก็จะสามารถส่ง sound effect ต่างๆจากการแสดงการแสดงดนตรีรวมทั้งละครเวทีได้อย่างเหมือนจริงเพิ่มมากขึ้น
เทรนด์ที่ 6: ความจริงและก็ความเสมอเหมือนที่จะถูกหลอมรวมกัน
เรื่องจริงในโลกกายภาพแล้วก็โลกมายากำลังจะถูกรวมเข้าด้วยกันจากทั้งยัง 2 ทาง การรับทราบของพวกเราผ่านแว่นสายตา AR จะมีผลให้พวกเราแทบจะแยกไม่ออกว่าสิ่งใดเป็นของจริง สิ่งใดเป็นวัตถุเปรียบเสมือนหรือเหตุการเลียนแบบ มากยิ่งกว่าครึ่งของกรุ๊ปตรวจสอบรู้สึกว่าพวกเราจะสามารถมองดูทะลุกำแพงได้ด้วยแว่นสายตา AR
เทรนด์ที่ 7: สิ่งไหนจริง สิ่งไหนเลียนแบบ
จากในหัวข้อการหลอมรวมกันของโลกจริงและก็โลกเหมือน แน่ๆว่าต้องมีระบบเพื่อใช้รับรองความถูกต้องชัดเจนของอัตลักษณ์บุคคลและก็ข้อมูลต่างๆเพราะเหตุว่าไม่งั้นอาจกำเนิดความสับสนรวมทั้งความไม่มั่นใจสำหรับในการความเกี่ยวข้องระหว่างผู้คนบนโลกอินเตอร์เน็ต ในเมื่อพวกเราสามารถสร้างร่างอวตารรวมทั้งเสียงของพวกเราขึ้นได้อย่างไม่จำกัด ระบบการันตีตัวตนจริงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะจะต้องถูกสร้างสรรค์ขึ้น
เทรนด์ที่ 8: ข้อบังคับแล้วก็ข้อกำหนดจำต้องทันเทคโนโลยี
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ มีหลายใจความสำคัญทางกฏหมายที่จำเป็นต้องให้ความเอาใจใส่ อาทิเช่น ปัญหาในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล อีกทั้งข้อมูลสาธารณะรวมทั้งข้อมูลเฉพาะบุคคล เพื่อมั่นใจได้ว่าภาครัฐสามารถให้ความคุ้มครองปกป้องต่อพสกนิกรในเรื่องความปลอดภัยในระดับที่เสมอกันกับการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของเขาเหล่านั้น
เทรนด์ที่ 9: ความเลื่อมใสมต่อแล้วก็ความยั่งยืนและมั่นคง
จุดเด่นของ Internet of Sensesเป็นการที่ระบบสามารถจะช่วยลดการเดินทางและก็การใช้พลังงานได้อย่างมากมาย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้พวกเราสามารถสร้างสังคมที่ดีต่อสภาพสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ดังนี้ในอีก 10 ปีด้านหน้า เราจะไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปเรียน ดำเนินงาน และยังรวมไปถึงไปพบหมอ เพราะเหตุว่าสามารถทำกิจกรรมพวกนั้นได้สบายสะบายบนโครงข่ายออนไลน์นั่นเอง
เทรนด์ที่ 10: การเข้าถึงเหตุและก็รับทราบอารมณ์ร่วม
สำหรับในการเอาสมรรถภาพทั้งสิ้นของ Internet of Senses มาร่วมสร้างประสบการณ์สุดสมจริงสมจังให้กับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตนั้น พวกเราสามารถเข้าถึงข้อมูลหรือเรื่องต่างๆอย่างเต็มอรรถรส และก็สามารถมีอารมณ์ร่วมกับสถานะการณ์พวกนั้นได้อย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน บางทีอาจทดลองจินตนาการถึงการไปท่องเที่ยวสวนประวัติศาสตร์จังหวัดสุโขทัยเวลาค่ำๆในคืนวันประเพณีลอยกระทง ดูการแสดงแสงสีเสียงหรูหรา พร้อมลองของกินท้องถิ่น อย่าลืมไปว่าทั้งสิ้นนี้คุณยังมิได้ก้าวเท้าออกมาจากห้องไปไหนเลยจ๊า
Comments