หัวเว่ยขับเคลื่อนความเสมอภาค
- man10310man
- Jul 3, 2020
- 1 min read

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.sanook.com/
นายเคน หู รองประธานกรรมการบริหารของหัวเว่ยเปิดเผยวิสัยทัศน์แล้วก็แนวทางทำงานของหัวเว่ยทางการศึกษา ภายใต้แนวความคิดการรวมเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ TECH4ALL ในงานการประชุมผ่านเว็บภายใต้ประเด็นการเรียนสุดยอด (Global Education Webinar) ที่ใช้ชื่อว่า “ขับความทัดเทียมแล้วก็ประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี (Driving Equity and Quality with Technology)” ย้ำ “การเชื่อมต่อสถานศึกษาแล้วก็การพัฒนาความชำนาญเป็น 2 ทางหลักสำหรับหัวเว่ย เพื่อเปลี่ยนแปลงความเท่ากันรวมทั้งประสิทธิภาพการเรียน” โปรแกรมบอลวันนี้
งานการประชุมดังที่กล่าวมาแล้วมีกรุ๊ปหัวหน้ารวมทั้งผู้ชำนาญจากอีกทั้งหน่วยงานองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) หน่วยงานควบคุมดูแลมาตรฐานการติดต่อสื่อสาร (Global System for Mobile Communications – GSMA) กระทรวงการศึกษาเล่าเรียนแห่งชาติของประเทศเซเนกัล มหาวิทยาลัยรวมทั้งสถานศึกษาต่างๆของภาคภาคเอกชนร่วม โปรแกรมบอลวันนี้
การพัฒนาความทัดเทียมรวมทั้งประสิทธิภาพด้านการศึกษาด้วยเทคโนโลยี
แม้เทคโนโลยีดิจิทัลจะมีหน้าที่สำคัญในด้านการเล่าเรียน แต่ว่ายังมีประชาชนอีกกว่า 50% ทั้งโลก ที่ไม่อาจจะเข้าถึงโครงข่ายอินเทอร์เน็ตได้ และก็มีอีกเพียบเลยที่ยังขาดความสามารถจำเป็นต้องในการใช้งานเครื่องใช้ไม้สอยดิจิทัล ด้วยเหตุดังกล่าว ความแตกต่างทางดิจิทัลในโลกการเล่าเรียนก็เลยขยายตัวกว้างขึ้น นายเคน หู พูดว่า “พวกเรามั่นใจว่าทุกคนไม่ว่าจะอยู่ ที่แห่งใด ก็มีสิทธิ์ได้รับช่องทางด้านการศึกษาอย่างเสมอภาคกันในฐานะบริษัททางเทคโนโลยี หัวเว่ยก็เลยตั้งอกตั้งใจจะมอบความช่วยเหลือเกื้อกูลด้วยการเชื่อมต่อ, แอปพลิเคชัน และก็ความชำนาญต่างๆโดยเน้นย้ำ 2 หนทางหลัก ดังเช่นว่า การมอบการเชื่อมต่อระหว่างสถานศึกษาต่างๆเข้าด้วยกัน และก็การพัฒนาความถนัดด้านดิจิทัล”
นายเคน หู รองประธานกรรมการบริหารของหัวเว่ชูล่าวเปิดงานประชุมสัมมนา
ด้านการมอบการเชื่อมต่อแก่สถานศึกษาต่างๆหัวเว่ยจะช่วยส่งเสริมผ่านการมอบการเข้าถึงทรัพยากรด้านการศึกษาประสิทธิภาพสูง ดังเช่น หลักสูตรการศึกษาเล่าเรียนในแบบอย่างดิจิทัล แอปพลิเคชันในการทำความเข้าใจผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) รวมทั้งการฝึกอบรมอาจารย์และก็เด็กนักเรียนด้วยการมอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้แก่สถานศึกษาจากกรุ๊ปพาร์ทเนอร์ เมื่อเร็วๆนี้ ในประเทศแอฟริกาใต้ หัวเว่ยได้เปิดตัวโครงงาน DigiSchool ภายใต้การร่วมแรงกับพาร์ทเนอร์เรน (Rain)
ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงข่าย รวมทั้งหน่วยงานไม่เสาะหากำไรทางการศึกษาอย่างมูลนิธิคลิก (Click Foundation) โดยเน้นมอบการเชื่อมต่อให้แก่โรงเรียนประถมศึกษาอีกทั้งในเขตเมืองแล้วก็พื้นที่ต่างจังหวัด 100 ที่ข้างในปีถัดไป เพิ่มจากทั้งผอง 12 แห่งที่เชื่อมต่อกับเทคโนโลยี 5G เป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย “ในการศึกษาเรียนรู้แบบอย่างดิจิทัล พวกเราไม่เพียงแค่ไขปัญหาวิกฤติด้านความสามารถเกี่ยวกับด้านการอ่านเขียนของประเทศ แม้กระนั้นพวกเรายังได้มอบความสามารถด้านดิจิทัลที่จำเป็นจะต้องต่อการบรรลุผลในอนาคตแก่เยาวชนอีกด้วย” นายนิโคลา แฮร์ริส ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิคลิกกล่าวเสริมสำหรับเพื่อการการประชุมผ่านเว็บ
ด้านการพัฒนาความชำนาญทางดิจิทัล หัวเว่ยได้คิดแผนจัดแจงฝึกหัดความสามารถทางดิจิทัลให้แก่กรุ๊ปที่ยังขาดความถนัดด้านดังที่ได้กล่าวมาแล้วในพื้นที่ไกลห่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุ๊ปนักเรียนผู้หญิงผ่านแผนการต่างๆยกตัวอย่างเช่น แผนการ DigiTruck ในชื่อ ‘ล้อที่ความชำนาญ – Skills on Wheels’ ตั้งแต่แมื่อการเปิดตัวโครงงาน DigiTruck ในประเทศเคนยาเมื่อท้ายปีก่อนหน้าที่ผ่านมา โครงงานดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วได้จัดแจงฝึกหัดแก่เยาวชนแล้วก็อาจารย์มากยิ่งกว่า 1,500 คน ในพื้นที่บ้านนอก
โดยหัวเว่ยมุ่งหวังจะจัดโปรแกรมในลักษณะเดียวกันนี้ในประเทศประเทศฝรั่งเศส ประเทศฟิลิปปินส์รวมทั้งประเทศอื่นๆข้างใน 2 ปีด้านหน้า “ห้องเรียนดิจิทัลเขยื้อนพวกนี้ดำเนินการโดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ รวมทั้งสมบูรณ์ด้วยการเข้าถึงเครือข่ายไร้สาย ที่สามารถเข้าไปดำเนินการได้แม้ว่าจะอยู่ในชุมชนที่ห่างไกลจากเมืองก็ตาม” นายโอลิวิเย่ร์ แวนเด็น อายน์ด ประธานกรรมการบริหารหน่วยงานวัวสเดอะแก๊บ (Close the Gap) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์หลักของ DigiTruck กล่าว
ยกระดับศักยภาพรับมือโควิด-19
หัวเว่ยได้ยกฐานะความจริงจังผ่านแนวความคิด TECH4ALL เพื่อช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตรด้านการศึกษาสุดยอดของหน่วยงานองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO’s Global Education Coalition) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อกรกับความท้าสุดยอดที่มีผลต่อการเรียนรู้เพราะว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังจะมองเห็นได้จากภารกิจต่างๆได้แก่ การรวมพลังกับกลุ่มพันธมิตรองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ และก็กระทรวงการเล่าเรียนแห่งชาติของประเทศเซเนกัล ช่วยเหลือการจัดการทางการศึกษาระยะไกลอย่างสม่ำเสมอในตอนที่มีการแพร่ระบาด
ทำให้กรุ๊ปอาจารย์ในพื้นที่ได้รับการเชื่อมต่อ วัสดุอุปกรณ์ดิจิทัล แล้วก็การฝึกอบรมความสามารถซึ่งมีประโยชน์ต่อเด็กนักเรียนมากยิ่งกว่า 100,000 คน “วิกฤติคราวนี้ได้เปลี่ยนแปลงโฉมแล้วก็แปลงอนาคตของภาคการศึกษา อีกทั้งทำให้เห็นว่าโครงงานความร่วมแรงร่วมมือสามารถนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงได้เร็วเท่าใดเมื่อความชำนาญแล้วก็ทรัพยากรมาบรรจบกับความอยากในพื้นที่ ก็เลยสร้างความแน่ใจได้ว่าการศึกษาจะเกิดขึ้นโดยตลอด โดยยิ่งไปกว่านั้นในกรุ๊ปเด็กนักเรียนแถบต่างจังหวัดที่อยู่ไกลห่างที่สุด”
ในเวลาเดียวกัน เมื่อต้นเดือนเดือนเมษายนก่อนหน้าที่ผ่านมา HUAWEI ICT Academy ได้เปิดตัวแผนการ “Learn ON” โดยมีเป้าประสงค์เป็นสร้างความประจักษ์แจ้งถึงความจำเป็นด้านการศึกษาของผู้มีความรู้ความเข้าใจด้าน ICT ในกรุ๊ปมหาวิทยาลัยที่ได้รับผลพวงจากการแพร่ระบาด โปรแกรมดังที่ได้กล่าวมาแล้วเป็นการจับกลุ่มพาร์ทเนอร์มหาวิทยาลัยระดับนานาชาติเข้าด้วยกัน
อีกทั้งได้มอบทุนเกื้อหนุนความร่วมแรงร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ซึ่งจะสามารถใช้ประโยชน์สำหรับหลักสูตรการเล่าเรียน, การสอบ, การทดสอบในแบบออนไลน์ แล้วก็อื่นๆขณะเดียวกันนี้ยังได้มอบทรัพยากรหลักสูตรการศึกษาเล่าเรียนออนไลน์ที่เปิดกว้างรวมทั้งรองรับเด็กนักเรียนหลายชิ้น (Massively Open Online Courses – MOOC) มากยิ่งกว่า 300 หลักสูตร ซึ่งมีรายละเอียดครอบคลุมเทคโนโลยีทันสมัย อาทิเช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI, Big Data, 5G และก็ Internet of Things ฯลฯ
ความร่วมแรงร่วมมือภาครัฐและก็ภาคเอกชน สำหรับการรีบไขปัญหาด้านการศึกษา
งานการประชุมผ่านเว็บในคราวนี้เน้นย้ำ 2 เรื่องสำคัญ ดังเช่นว่า “การเรียนระยะไกลเพื่อความเกี่ยวเนื่องด้านการศึกษาที่ดีมากกว่า” แล้วก็ “ของใหม่ไอทีแล้วก็การติดต่อสื่อสารเพื่อการเล่าเรียนที่ครอบคลุม” ข้างในงานยังมีการปรึกษาหารือและขอคำแนะนำถึงข้อกำหนดที่ดีเยี่ยมที่สุดและก็การแบ่งปันประสบการณ์จากเมืองจีน ประเทศฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก เซเนกัล แอฟริกาใต้ รวมทั้งประเทศอื่นๆ
โดยนายบอร์รีน ชาอาจารย์น ผู้อำนวยการแผนกหลักการรวมทั้งระบบการเล่าเรียนทั้งชีวิตของหน่วยงานองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO’s Policy and Lifelong Learning Systems) ย้ำว่า “ด้วยปริมาณอาจารย์ระดับประถมศึกษาและก็ม.อย่างต่ำ 63 ล้านผู้ที่ได้รับผลพวง การระบาดของวัววิด-19 ทำให้ทราบถึงความอยากได้ด้านการพัฒนาสมรรถนะของอาจารย์ให้สามารถจัดแจงการศึกษาระยะไกลได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งข้อความสำคัญดังที่กล่าวถึงแล้วจะแปลงเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของการเตรียมพร้อมทางการศึกษารวมทั้งการฝึกอบรมต่างๆในอนาคต”
ยิ่งกว่านั้น ผู้เข้าร่วมงานยังลงความเห็นว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐรวมทั้งภาคเอกชนนั้นเป็นกุญแจในการเกื้อหนุนการศึกษาวิจัยที่ครอบคลุมผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล “ในปีนี้กรุ๊ปประเทศที่มีรายได้น้อยรวมทั้งรายได้ปานกลางได้ศึกษาบทเรียนเยอะมาก แล้วก็ได้ปรับการให้บริการ ตระหนักถึงความอยากของผู้ใช้แล้วก็ตอบรับกับผลพวงจากการระบาดทั้งโลกด้วยการพัฒนาธุรกิจแล้วก็กลุ่มพันธมิตรสำคัญ
โดยเดี๋ยวนี้หน่วยงานควบคุมดูแลมาตรฐานการติดต่อสื่อสาร (GSMA) และก็อุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ ได้ให้การส่งเสริมแล้วก็จะยืนหยัดมอบการผลักดันในระยะยาวให้แก่วัตถุประสงค์การพัฒนาที่ยืนยงของหน่วยงานยูเอ็น ในช่วงที่การเป็นหัวหน้าด้านจรรยาบรรณ” นางสเตฟานี ลีนช์-ฮาบิบ ประธานข้างการตลาดที่ GSMA กล่าวเสริม
ดังนี้ การบรรลุผลด้านการเสริมเทคโนโลยีดิจิทัลกับการเรียนรู้นั้นควรต้องอาศัยความมานะบากบั่นจากทุกภาคส่วน อีกทั้งจากภาครัฐ หน่วยงานต่างๆในภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งสถานศึกษาและก็บริษัททางด้านเทคโนโลยี ที่จะให้การส่งเสริมด้วยประสบการณ์รวมทั้งทรัพยากรของพวกเขา
ในที่สุดแล้วสิ่งนี้จะช่วยรีบการมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายของวัตถุประสงค์ SDG ในลำดับที่ 4 (อันเป็นต้นว่า “การผลิตหลักประกันให้การศึกษาเล่าเรียนมีคุณภาพอย่างเสมอภาค ครอบคลุมแล้วก็ช่วยเหลือช่องทางการเรียนชั่วชีวิตสำหรับทุกคน”) ข้างในปี พุทธศักราช 2573 ผู้พอใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้เกี่ยวกับงานการประชุมผ่านเว็บทางการศึกษาสุดยอด (Global Online Education) โดยสามารถคลิก ตรงนี้ เพื่อรับดูวีดีโอ รับดูการกล่าวคำปราศรัยของนายเคน หู พร้อมอ่านเนื้อความบล็อกโพสต์ทางการศึกษา ได้โปรดกรุณาไปที่ https://blog.huawei.com/2020/06/23/driving-education-equality-with-technology/
Comments