top of page
Search

รู้จัก "โรคโลหิตจาง" ติดเชื้อในกระแสเลือด

  • man10310man
  • Jul 6, 2020
  • 1 min read

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.sanook.com/


นับเป็นข่าวช็อกวงการบันเทิงอีกครั้ง ภายหลังจากการตายทันทีทันใดของ “ทุ่งนาธาน โอมาน” สมัยก่อนนักแสดงมีชื่อ ในวัยเพียงแค่ 45 ปี ภายหลังเข้ารับการดูแลรักษาตัวที่โรงหมอจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องด้วยลักษณะการป่วยด้วยโรคโลหิตจาง แล้วก็มีสภาวะติดโรคในกระแสโลหิต บาคาร่า ออนไลน์


สำหรับภาวการณ์ "ติดโรคในกระแสโลหิต" คำนี้ผู้คนจำนวนมากคงจะเคยรับรู้อยู่เสมอๆซึ่งการได้รับเชื้อจะเกิดขึ้นที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งของร่างกาย ซึ่งเชื้อดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วเป็นต้นว่า จุลินทรีย์ต่างๆยกตัวอย่างเช่น เชื้อไวรัส, เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา จะติดเชื้อโรคที่อวัยวะต่างๆของร่างกายสามารถทำให้มีการเกิดการรับเชื้อในกระแสโลหิตได้ บาคาร่า ออนไลน์


ทางด้าน รองศาสตราจารย์พญ.ดวงจันทร์โสภิณ เกียรติยศบูรณกุล สาขาวิชาโรคติดเชื้อ สาขาวิชาอายุรศาสตร์ แผนกแพทยศาสตร์โรงหมอรามาหัวหน้า มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ชี้แจงถึงสภาวะติดโรคในกระแสโลหิตว่า เมื่อมีการติดโรคในกระแสโลหิตแล้ว ร่างกายของพวกเราจะมีปฏิกิริยาสนองตอบต่อการได้รับเชื้อหรือต่อพิษของเชื้อโรค ซึ่งจะมีผลให้มีการอักเสบขึ้นทั่วรอบๆของร่างกาย ถ้ามีความร้ายแรงมากมายบางทีอาจปรับปรุงไปสู่สภาวะช็อกและก็ทำให้รูปแบบการทำงานของอวัยวะภายในต่างๆล้มเหลว เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ก็เลยควรต้องได้รับการดูแลและรักษาอย่างทันเวลา


ตอนที่ เชื้อโรคสามารถไปสู่ร่างกายได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นทางผิวหนัง ฟุตบาทหายใจ ฟุตบาทฉี่ ทางเดินอาหาร หรือทางรอยแผล ฯลฯ โดยยิ่งไปกว่านั้นในตอนที่ร่างกายอ่อนแอ เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย โดยมีเหตุที่นำไปสู่การรับเชื้อในกระแสโลหิตนั้นมี 3 ต้นเหตุ ดังต่อไปนี้


1.) ความป่วย เมื่อร่างกายอ่อนแอรวมทั้งภูมิคุ้มกันต่ำ ก็จะมีผลให้ไม่สามารถที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคที่ไปสู่ร่างกายได้อย่างเต็มคุณภาพ


2.) คนที่มีโรคประจำตัว เป็นต้นว่า โรคตับแข็ง เพราะว่าตับจะเป็นตัวกรองเชื้อโรคไม่ให้ไปสู่ร่างกาย เมื่อตับไม่อาจจะปฏิบัติงานได้ เชื้อโรคก็จะสามารถผ่านเข้าไปในกระแสโลหิตได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หรือเป็นโรคโรคเบาหวาน เหตุเพราะสภาวะน้ำตาลในเลือดสูงในคนที่เป็นโรคเบาหวานจะมีผลให้มีการปฏิบัติงานของระบบภูมิต้านทานที่มีบทบาทต่อสู้กับเชื้อโรคเสียไป นอกนั้นในเด็กตัวเล็กๆแล้วก็ในคนสูงอายุจะเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อในกระแสโลหิตได้มากกว่าหนุ่มสาวหากว่าไม่มีโรคประจำตัว เนื่องมาจากมีภูมิต้านทานต่ำ


3.) ต้นเหตุอื่นๆได้แก่ การดูแลและรักษาคนเจ็บโดยการใช้งานเครื่องมือแล้วก็เครื่องมือต่างๆไปสู่ร่างกายคนไข้ ดังเช่น การสวนทวาร การสวนเยี่ยว รวมทั้งการใช้สายสวนเส้นโลหิต ทำให้เชื้อโรคไปสู่ร่างกายได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น


ลักษณะของการรับเชื้อในกระแสโลหิต แบ่งเป็น 3 ลักษณะ เป็น


1.) อาการเฉพาะที่หรือเฉพาะอวัยวะที่ติดโรค ตัวอย่างเช่น ถ้ามีลักษณะอาการไอแล้วก็เจ็บอกเมื่อหายใจ บางทีอาจพบว่ามีการติดเชื้อโรคที่ปอดหรือเยื่อหุ้มห่อปอด หรือมีลักษณะปวดหลังแล้วก็ฉี่หลายครั้ง มีความหมายว่าอาจเกิดขึ้นจากการได้รับเชื้อที่กรวยไต ฯลฯ


2.) อาการแสดงทางผิวหนัง มีสาเหตุจากการที่เชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรคที่อยู่ในกระแสโลหิต กระจัดกระจายมาสู่รอบๆผิวหนัง ก่อให้เกิดรอยขึ้นที่รอบๆผิวหนัง ซึ่งในบางรอยนั้นอาจมีลักษณะที่ไม่เฉพาะเจาะจง ยกตัวอย่างเช่นเป็นตุ่มหนองปกติ และก็ในบางรอยนั้นมีลักษณะเฉพาะซึ่งสามารถบอกได้ถึงจำพวกของเชื้อ


3.) อาการที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายมีปฏิกิริยาสนองตอบต่อการได้รับเชื้อ หรือเป็นกรุ๊ปอาการสนองตอบต่อการอักเสบทั่วร่างกาย ดังเช่น จับไข้ขึ้นสูงขึ้นยิ่งกว่า 38 องศาเซลเซียส ในบางรายอาจมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย มีชีพจรเต้นเร็วขึ้นเกิน 90 ครั้งต่อนาที แล้วก็หายใจเร็วเกิน 20 ครั้งต่อนาทีฯลฯ


ในการรักษาอาการติดโรคในกระแสโลหิต หมอจะวิเคราะห์จากลักษณะแล้วก็ลักษณะของผู้เจ็บป่วยเป็นลำดับแรก แล้วต่อจากนั้นจะกระทำเจาะเลือดและก็ตรวจสิ่งคัดเลือกหลั่งจากอวัยวะที่สงสัยว่ามีการติดโรคด้วยการเพาะหาเชื้อ ซึ่งใช้เวลาโดยประมาณ 3-5 วัน แต่ว่าเพราะการได้รับเชื้อในกระแสโลหิตเป็นคราวฉุกเฉิน หมอก็เลยจะต้องอาศัยการวิเคราะห์พื้นฐานรวมทั้งเลือกให้ยาต่อต้านจุลชีวินที่ครอบคลุมเชื้อไว้ก่อน ซึ่งถ้าเกิดคนไข้ได้รับยาต่อต้านจุลชีวันหรือยาปฏิชีวนะที่ตรงกับเชื้อในตอน 1-2 ชั่วโมงแรก คนป่วยจะได้โอกาสรอดตายสูงขึ้น


แม้กระนั้นตรงกันข้าม แม้ได้รับยาที่ไม่ตรงกับเชื้อหรือได้รับยาช้าเหลือเกิน ก็จะเสี่ยงต่อการตายเพิ่มมากขึ้นด้วยเหมือนกัน เมื่อได้รับยาต่อต้านจุลินทรีย์แล้ว หมอจะทำรักษาแบบจุนเจือไปพร้อมเพียงกัน ดังเช่นว่า หากมีสภาวะไตวายก็ทำขัดไต ถ้าหากคนไข้หายใจเองมิได้ก็จะมีการให้ออกสิเจนหรือการใช้งานเครื่องช่วยหายใจ หรือหากผู้เจ็บป่วยมีภาวการณ์ซีดเผือดก็จะมีการให้เลือด โดยพิเคราะห์ตามลักษณะของการมีอาการของคนไข้


วิธีการป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อโรคในกระแสโลหิต ถ้าหากทราบดีว่าตนเองมีสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคหรือถ้าหากติดเชื้อโรคแล้วจะมีลักษณะร้ายแรง สิ่งจำเป็นเป็นพวกเราจำเป็นจะต้องรักษาสุขภาพของตนให้แข็งแรงอยู่ตลอด รวมทั้งรักษาโรคประจำตัวที่เป็นความมีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อในกระแสโลหิต ยกตัวอย่างเช่น คนที่เป็นโรคเบาหวานก็ควรจะควบคุมระดับน้ำตาลให้ดี ดูแลในเรื่องของของกิน การกินอาหารให้ครบ 5 กลุ่ม


แต่ ผู้ที่เสี่ยงติดโรคในกระแสโลหิตเป็นผู้ที่ภูมิต้านทานของร่างกายไม่ดีสักเท่าไหร่ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อได้ง่ายหมายถึงคนที่ได้รับยากดภูมิต้านทาน คนที่ได้รับเคมีบำบัดรักษา ผู้ติดเชื้อโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง คนที่มีโรคประจำตัว อาทิเช่น เบาหวาน ที่ควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดี เป็นโรคโรคตับแข็ง เด็กตัวเล็กๆมากมายๆแล้วก็คนชรา

 
 
 

Comments


©2020 by My Site. Proudly created with Wix.com

bottom of page