5 วิธีเลิกเสพติด “โซเชียลมีเดีย” อย่างจริงจัง

ฟังก์ชันการใช้แรงงานของโทรศัพท์เคลื่อนที่ช่วงปัจจุบันล้ำกว่าเมื่อก่อนมากมาย โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวทำเป็นดูเหมือนจะทุกอย่าง ทำใชีวิตประจำวันผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็เลยค่อนข้างจะจะต้องถือโทรศัพท์เคลื่อนที่ติดมือตลอดระยะเวลา ว่างๆก็จับขึ้นมาจับๆไถๆทุกๆ5-10 นาที บางบุคคลก็รู้สึกไปเองว่าโทรศัพท์สั่นกระทั่งจำเป็นต้องจับขึ้นมามอง นี่เป็นสัญญาณที่บอกว่า พวกเราเสพติดโซเชียลเน็ตเวิร์คมากจนเกินไปแล้ว

มูลเหตุที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องการจะเลิกเสพติดโซเชียลเน็ตเวิร์ค ก็เพราะว่าการใช้ชีวิตอยู่ในโลกโซเชียลยากกว่าเมื่อก่อนมากมาย ข่าวที่เกิดขึ้นรายวันมีแม้กระนั้นเรื่องชักชวนทุกข์ใจ ผู้คนถูกใจให้ความคิดเห็นอย่างรุนแรงโดยที่ไม่แคร์ว่าจะเป็นพิษกับผู้ที่เข้ามาอ่าน ตามติดชีวิตบุคคลอื่นเยอะเกินไปแล้วเอามาเทียบกับตนเอง เสพติดความดราม่าแบบไม่หลับไม่นอน ปล่อยปละละเลยผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้างรวมทั้งหมดเวลาไปโดยไร้ผล เปลี่ยนเป็นปัญหาที่กระทบการทำงานรวมทั้งการใช้ชีวิต

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.sanook.com/

หากตั้งประณิธานไว้แล้วว่าจำเป็นต้องเลิกเสพติดโซเชียลให้ได้เสียหน Tonkit360 ก็เลยมีแนวทางดีๆมาชี้แนะ ซึ่งถ้าเกิดพวกเราทำเป็นตามนี้ ยืนยันว่าเลิกติดโซเชียลเน็ตเวิร์คแน่ๆ

1. หักดิบขั้นสุด

ถ้าเกิดเด็ดเดี่ยวพอเพียงจะลบแอปพลิเคชันที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับเรื่องงานได้ล่ะก็ ลบทิ้งไปเลยก็ได้ เนื่องจากการที่พวกเราไม่มีมันในโทรศัพท์มือถือ พวกเราก็จะไม่อาจจะใช้งานมันได้อีก แม้กระนั้นถ้าเกิดไม่ต้องการที่จะอยากลบก็ให้ log out ทุกคราวหลังการใช้งาน และไม่ตั้งค่าให้เครื่องจำรหัสผ่าน แนวทางลักษณะนี้จะช่วยทำให้พวกเราลดการจับโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็กโน่นนี่ตลอดระยะเวลาได้ เพราะเหตุว่าเมื่อเปิดจอขึ้นมาก็จะพบว่าแอปฯ มิได้เปิด หากขี้คร้านจะ log in เป็นประจำก็จะลดจะลดการใช้แรงงานไปได้เอง สูตรเล่นบาคาร่าให้ใช้ฟรี เป็นวิทยาทาน

2. ปิดการแจ้งเตือน

ปัญหาเรื่องการติดโซเชียล ส่วนหนึ่งส่วนใดเป็นเนื่องจากว่าเสพติดที่จะอัปเดตความเป็นไปของโลกตลอดระยะเวลา ด้วยเหตุนั้น ถ้าเกิดต้องการจะลดการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค ก็ให้ปิดการแจ้งเตือนอีกทั้งสั่นอีกทั้งเสียงในทุกแอปฯ ถ้าหากกลัวพลาดการติดต่อสำคัญ ก็ให้เว้นเวลาเช็กโทรศัพท์ให้นานขึ้น จากทุก 5 นาที เป็นครึ่งชั่วโมง พอเพียงเริ่มเคยชินก็เป็นชั่วโมงแทน หรือทางที่ดีจะดับเครื่องไปเลยก็ได้ จะได้มองไม่เห็น ไม่รับ ไม่รู้จัก ไม่ใส่ใจกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น

3. กำหนดเวลาการใช้งาน

ถ้าเกิดแน่ใจว่าสามารถควบคุมตัวเองได้ ก็ไม่จำเป็นที่ต้องลบแอปฯ ทิ้ง หรือปิดการแจ้งเตือนแบบสั่น แค่เพียงแบ่งเวลาการใช้แรงงานให้ชัดแจ้ง หมดเวลาเป็นวางแล้วกลับไปดำเนินงาน หรือจะโหลดแอปพลิเคชันที่ช่วยกันจำกัดการใช้แรงงานเครือข่ายสังคมมาใช้ บางแอปฯ แจ่มแจ้งเตือนเมื่อครบเวลาการใช้แรงงานว่าจะต้องหยุด แม้กระนั้นบางแอปฯ จะปิดการใช้แรงงานของแอปฯ โซเชียล แล้วล็อกเครื่องเลย จะเปิดอะไรก็มิได้ โทรออกได้สิ่งเดียว เป็นการกลับสู่ฟังก์ชันของโทรศัพท์ที่จริงจริง

4. จัดแจงกับอินเทอร์เน็ต

ถ้าหากไม่มีอินเทอร์เน็ต พวกเราก็เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คมิได้จริงไหม? เนื่องจากถ้าเกิดไม่ต้องการที่จะอยากจะลบๆโหลดๆแอปฯ ไม่ต้องการที่จะอยาก log in-log out เสมอๆไม่ได้อยากดับเครื่อง ก็ปิดอินเทอร์เน็ตแทน เมื่อไม่อยากที่จะให้เน็ตหมดไว พวกเราก็จะปิดเน็ตทุกคราวหลังการใช้งาน และก็เพียรพยายามจะใช้ให้ต่ำที่สุด ถ้าหากกลัวจะตบะแตก ก็เปลี่ยนแปลงแพ็กเกจเน็ตเป็นแบบจำกัดการใช้แรงงาน ซึ่งการปิดสัญญาณเน็ตดีจะดีตรงที่เพียงแค่เปิดเน็ตกลับมา แจ้งเตือนก็กระเด้งขึ้นมาด้วย ไม่พลาดการติดต่ออะไร สูตรเล่นบาคาร่าให้ใช้ฟรี เป็นวิทยาทาน

5. หากิจกรรมอื่นทำ

ก่อนหน้าที่เครือข่ายสังคมจะเข้ามามีผลต่อชีวิตพวกเรามากมายขนาดนี้ พวกเราเคยอยู่กันได้โดยไม่มีโซเชียล เพราะว่าพวกเราต่างก็มีกิจกรรมทำขณะว่างอยู่แล้ว บางบุคคลเล่นเกมกด บางบุคคลฟังเพลงจากเครื่องเล่น mp3 บางบุคคลอ่านหนังสือการ์ตูน ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทดลองเอากิจกรรมที่ว่าโน่นกลับมาทำมอง หรือจะทำอะไรก็ได้ที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ จะช่วยดึงความพึงพอใจจากจอไปได้ ท้ายที่สุด พวกเราจะลดการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เอง ซึ่งแนวทางลักษณะนี้ทำให้บางบุคคลถึงกับขนาดตัดขาดจากโลกโซเชียลไปเลย